นายกรัฐมนตรีมอบนโยบาย

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๑ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อมอบนโยบาย ในฐานะที่ท่านกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติด้วยตนเอง โดยได้เดินทางไปกราบสักการะพระศรีศากยะทศพลญาณประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ เยี่ยมชมนิทรรศการ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และลงนามในสมุดเยี่ยมชมเป็นที่ระลึก ซึ่งเป็นนิมิตหมายอันดี โดยท่านนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานแก่ผู้บริหารและข้าราชการ ลูกจ้าง ศาสนการ ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่า “สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นสำนักงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นที่ทราบว่าประเทศไทยนั้นมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลัก แต่เราเข้าใจกันดีว่า ประเทศไทยเราไม่มีการกีดกันในการนับถือศาสนาใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าใครจะนับถือศาสนาใด ก็คือเป็นเสรีภาพ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ซึ่งแสดงว่าทรงอุดหนุนจุนเจือหรือ ทรงพระเมตตาที่ทรงสนับสนุนทุกกิจกรรมของทุกศาสนา เป็นธรรมเนียมวัฒนธรรมที่ดีงามยิ่งของประเทศไทย”

โดยนายกรัฐมนตรีได้ฝากให้เยาวชนและประชาชนเข้าใจและเข้าถึงหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา และเน้นให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมแรงแข็งขันร่วมมือกันทำงานด้านเผยแผ่แบบบูรณาการ โดยนำเครื่องมือทางเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้ และยังได้กล่าวอีกว่าหากมีสถานีวิทยุ และสถานีโทรทัศน์ เป็นของสำนักงานพระพุทธฯ เอง จะสามารถเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้มากขึ้น เช่น หากว่าวันนี้เป็นวันพระ ญาติโยมสนใจธรรมะก็สามารถเปิดดูช่องนี้ได้เลย

และยังได้ฝากอีกว่า จะมีการทำบุญประเทศ โดยนิมนต์พระสังฆาธิการชั้นผู้ใหญ่ทุกระดับ และฆราวาสมาร่วมทำบุญ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเชิญพุทธศาสนิกชนมาร่วมทำบุญ เพื่อให้เกิดจิตใจสงบสุข โดยกำหนดให้มีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ครั้งใหญ่ โดยพระสงฆ์ ๙,๙๙๕ รูป ในวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๑ ณ พุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

การเดินทางมามอบนโยบายในครั้งนี้ ข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต่างรู้สึกซาบซึ้งและพร้อมสนองนโยบายอย่างเต็มที่ และขอยกคำพูดของท่านนายกฯ บางตอนในการเดินทางมามอบนโยบายครั้งนี้ว่า “ชีวิตคนเรานั้น ถ้าเปรียบเทียบแล้วเดี๋ยวเดียวก็จากไป เหมือนสายฟ้าที่ผ่านมาแล้วหายไป ในช่วงระยะเวลาตรงนั้นถ้ารีบมาทำความดี ทำความเจริญรุ่งเรือง หรือมีเมตตาต่อกัน มันก็จะมีบุญกุศลต่อกันในภายภาคหน้า”